..ทิศทางความคิด..
ทิศทางความคิดมี 2 ทิศหลักคือ1.มองโลกในแง่ดี
คือการสร้างความชื่นชมให้เกิดขึ้นแก่ใจโดยจิตนาถึงเฉพาะส่วนดีของโลก สิ่งใดที่ควรเป็นส่วนเลวจะไม่ยอมรับรู้ไม่ยอมเข้าใกล้ และพยายาม คิดว่าโลกนี้ล้วนแต่สวยสดงดงามน่ารื่นมรมย์ เป็นแดนสวรรค์ การเกิดเป็นมนุษย์สุดแสนวิเศษ สร้างอารมณ์ให้เคลิบเคลิ้มหลวงไหลไปกับโลกบางทีก็ลิงโลดและเพ้อเจอจนกลายเป็นบ้าได้ในที่สุด
2.มองโลกในแง่ร้าย
คือความไม่พอใจต่อสภาพของคนและมองโลกทั้งปวงด้วยอรมณ์แห่งความไม่พอใจ เห็นอะไรๆ ก็ไม่ดีไปหมดไม่น่ารื่นรมย์ อันโน้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่ถูก เป็นอารมณ์รัดตรึงตนให้สลดหดหู่ท้อแท้ เคียดแค้นชิงชัง ทุกข์ระทมและอาจเป็นบ้าในที่สุด
แล้วท่านล่ะคิดอย่างไร?
ความคิดที่ไม่มีทิศทาง
ความคิดที่ไม่มีทิศทางคือความคิดที่จิตทรงตัวอยู่ในตนเอง ในสภาวะบริสุทธิ์ ในสภาพจิตทรงความเป็นกลางเช่นนี้จะรู้ทุกสิ่งได้ตามความเป็นจริง ประจักษ์ว่าแท้จริงแล้ว โลกนี้มีทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่เลวในอัตราเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกัน แต่ทั้งความดีและความเลวของโลกหาใช่สิ่งที่สถาพรไม่ ล้วนต้องแปรผันไปตามอำนาจแรงวัฒนาการและวิวัฒนาการเสมอ การอยู่ในโลกจึงเป็นการดำรงอยู่ในความเกิด-ดับ ดี-เลว สุข-ทุกข์ ผันไปแปรมาตลอดนิจอนันตกาล
เราจะเห็นได้ว่าความคิดนี่เองที่ทำให้เกิดอารมณ์ และอารมณ์ต่างๆ ที่สะสมอยู่ในสัญญาจนเป็นจิตใต้สำนึกและผลักดันออกมาเป็นบุคคลิกภาพของบุคคล ทั้งทางจิตใจ ร่างกาย และวิถีชีวิต
ดังนั้น เมื่อจิตใจที่ยังคิดได้ ก็จนฉลาดที่จะใช้ความคิด คิดอย่างเอื้อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
0 Comments:
Post a Comment
<< Home